4. รักลวง

         
          บางทีฉันก็ถามตัวเองแบบเซ็งๆ และนึกขำว่า “นี่ชั้นเป็นแม่เหล็กดึงดูดความรักเฮงซวยรึยังไงกัน!#@&*?” ฉันเป็นแฟนตัวยงหนัง Chick Flick และเฝ้าฝันว่าจะได้เจอพระเอกแสนดีที่ดูแลฉันราวกับว่าฉันเป็นนางเอกที่เค้ารักเพียงคนเดียวในหนังชีวิตของเค้า ต่อมาฉันคิดว่ามันตลกสิ้นดีหนังพวกนี้หลอกลวงกันชัดๆ เพื่ออะไรกัน? เพื่อให้นักแสดงได้มีงานทำ? หรือเพื่อขายฝันลมๆ แล้งๆ ให้กับผู้หญิงที่โหยหาความรัก? ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคงเสพหนังสไตล์นี้อยู่ดี

          ตอนนั้นฉันใกล้จะทำวิทยานิพนธ์เสร็จพอดีและพอมีเวลาอยู่บ้างจึงอยากหารายได้พิเศษ ฉันอยากเป็นดีเจเสมอมันคือหนึ่งในความฝันของฉันถึงแม้มันจะไม่ตรงกับสายวิชาที่ฉันเรียนมาก็ตาม โชคดีที่ตอนนั้นฉันได้มีโอกาสเป็นผู้ประกาศรายการทีวีให้กับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ทุกอย่างลงตัวฉันใกล้จะสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทและฉันก็มีงานทำ

          รุ่นพี่ที่ทำงานคือความรักครั้งที่สี่ ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้สนใจอะไรเค้าแต่ช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมปีพ.ศ. 2554 เราต้องอยู่ที่ทำงานด้วยกันแล้วความรู้สึกของฉันก็เปลี่ยนไป เราใกล้ชิดกันมากขึ้นและเค้าก็ดูแลฉันเป็นอย่างดีเป็นทั้งพี่และเพื่อนในเวลาเดียวกัน สุดท้ายฉันก็ชอบเค้าทั้งๆ ที่รู้ดีว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้ว ไม่แปลกหรอกถ้าคุณอยากจะถามกับฉันว่า “ยังไม่เข็ดกับการรักคนมีเจ้าของรึไง?” ถ้าคุณติดตามอ่านบทความเรื่องความรักของฉันมาทั้งหมด

          การที่คุณใช้เวลาอยู่กับคนๆ หนึ่งจนรู้สึกเหมือนเป็นความเคยชิน และเมื่ออยู่ดีๆ เค้าก็ดูเหมือนจะหายไปจากวงจรชีวิตคุณ คุณรู้สึกอย่างไร? คำตอบของฉันคือ “คิดถึง” และมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึก “ต้องการ” เค้ามากขึ้นจนไม่สนใจว่าเค้าจะ มีเจ้าของ แล้วก็ตาม ต่อมาฉันพยายามเอาใจเค้ามากถึงมากที่สุดเพื่อที่จะชนะใจเค้าให้ได้ นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ฉันกลับเข้าสู่วังวนสามวันดีสี่วันร้าย

          ฉันเวิ่นเว้อและพยายามคุยโทรศัพท์กับเค้าให้ได้นานที่สุดทั้งๆ ที่เค้าให้เหตุผลว่าต้องทำงาน ด้วยความที่เป็นผู้ชายหน้าตาดีคงมีสาวๆ จำนวนไม่น้อยที่ชอบเค้า ฉันจึงคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าในเมื่อเค้านอกใจแฟนตัวเองแล้วแอบคบกับฉันได้เค้าคงจะมีผู้หญิงคนอื่นๆ ในสต็อกอีกมากมาย ฉันอยู่กับความไม่ไว้ใจและคอยระแวงนู่นนี่ ก็แน่หล่ะสิ่งที่เราทำมันไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของ ความซื่อสัตย์ แล้วจะหาความเชื่อใจได้จากที่ไหน???

          ต่อมาฉันได้งานใหม่พร้อมกับค่าตอบแทนที่ดีจึงทำให้เราสองคนได้เจอกันน้อยลง เกือบปีที่ฉันตื้อและยื้อความสัมพันธ์ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้จนนาทีสุดท้ายที่ถูกบอกเลิกทางโทรศัพท์ ฉันเศร้าและทำใจอยู่พักหนึ่งแต่กลับกลายเป็นว่าฉันรู้สึกเจ็บปวดน้อยกว่าครั้งอื่นๆ เพราะครั้งนี้มีเสียงข้างในใจลึกๆ ถามฉันว่า “สู้มั้ย?” ฉันขอบคุณเสียงนั้นที่ช่วยเตือนสติให้ฉันก้าวข้ามความผิดหวังเสียใจและเยียวยาบาดแผลได้เร็วกว่าเดิม (คงเป็นเพราะว่าฉันมีภูมิท้านตานมากขึ้น 555)

          ฉันสนุกกับการทำงานและเรียนรู้จากทุกๆ อุปสรรค ฉันมีโอกาสได้ไปดูงานที่ต่างประเทศและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิต นี่เป็นงานที่ฉันทำได้นานที่สุดและต้องขอบคุณความโชคดีของตัวเองที่ได้เก็บเกี่ยวความรู้จากงานที่ทำถึง 7 ปีเต็ม ก่อนที่จะออกจากงานประจำมาเป็นนายตัวเองและก่อตั้งเว็บไซต์ https://verbtohelp.com นี้ในปีพ.ศ. 2562 เพื่อเป็นผู้ช่วยและคอยเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังเผชิญมรสุมชีวิตในการแก้ไขปัญหาด้วย “สติ” 

          ยอมรับว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมาเกือบ 40 ปี ฉันมีช่วงเวลา โสด มากกว่าช่วง ไม่โสด คิดเป็นสัดส่วนความโสดมากถึงร้อยละ 95 ของชีวิต (เป็นมาแล้วทั้งกิ๊กและกั๊ก 🤣) ฉันรู้ตัวว่าคงให้คำปรึกษาเรื่องความรักกับใครไม่ได้เพราะฉันเองก็เกือบจะเอาตัวไม่รอด แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันทำได้คือการบอกต่อบทเรียนของตัวเองให้กับคนที่เจอปัญหาแบบเดียวกับฉันหรือคนที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น

          ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมตัวเองถึงถูกซ้ำชั้นใน ห้องเรียนความรัก ของ โรงเรียนชีวิต กับการที่ต้องเจอความรักช้ำๆ และคิดไปว่าบททดสอบในชีวิตมักจะมาแบบไม่ทันตั้งตัว ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ฉันอยากจะเปลี่ยนชะตาชีวิตตัวเองให้สมหวังในความรักและไม่ต้องอกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่พอมาถึงตอนนี้เวลาที่ผ่านไปเกือบ 10 ปีนับจากความรักครั้งนั้นทำให้ฉันรู้และเข้าใจว่าถ้าไม่ได้เจอกับประสบการณ์ความรักอันเจ็บปวดฉันคงคิดไม่ได้ว่า “บนโลกใบนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ”

บทเรียนที่ได้ : การรู้จักคุณค่า เคารพ ให้เกียรติ และภูมิใจในตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จหรือความล้มเหลว จะทำให้เราเข้าใจความหมายของคำว่า “รักตัวเองเป็น” และมันไม่เคย “สายเกินไป”

                                                                                                               30-09-2021

ใส่ความเห็น