จะเริ่มอย่างไรก่อนดีหล่ะ ฉันคิดว่าหลายคนคงมีความเชื่อเกี่ยวกับ “รักแรก” เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ที่จะ “รัก” หลายคนประสบความสำเร็จได้เจอรักแท้และได้อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต แต่กับใครหลายคนกลับพบว่ารักแรกคือบทเรียนครั้งสำคัญที่ต้องเรียนรู้และก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวดไปให้ได้ ซึ่งมีทั้งคนที่เอาชนะมันมาได้และคนที่พ่ายแพ้ไปกับมัน
เมื่อความหวานเปลี่ยนเป็นความขมคุณจะรับมือกับมันอย่างไร? นี่เป็นคำถามที่ดีเสมอเพราะมันช่วยเตรียมความพร้อมให้คุณเพื่อรับมือกับเรื่องที่ไม่คาดฝัน ใช่! ไม่มีใครอยากอกหักหรอก ไม่มีใครอยากถูกหลอก และก็ไม่มีใครอยากถูกทิ้งให้อยู่ตัวคนเดียว แต่จะเอาอะไรกับใจคนที่มีชีวิตอยู่แบบงงๆ บนโลกยุ่งๆ ใบนี้
ฉันเคยทำผิดพลาดมาแล้วหลายครั้งแต่ขอเริ่มจากความรักครั้งแรกก่อนแล้วกันกับ “เฟรนด์โซน” ที่เมื่อก้าวออกมาแล้วไม่มีวันกลับเข้าไปได้อีกเพราะเมื่อเลิกกันแล้วก็ยิ่งมองหน้าไม่ติด และต้องปวดใจทุกครั้งที่ต้องเห็นแฟนเก่าของฉันกับแฟนใหม่ของเค้าอยู่ด้วยกันตลอดระยะเวลา 3 ปีแห่งความทรมาน อ่อ! ลืมบอกไปว่าตอนนั้นฉันศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง ฉันกับแฟนคนแรกเจอกันตอนปีหนึ่งเราเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน
ด้วยความที่เป็นคนแพ้ทางผู้ชายตลก ขี้เล่น และอัธยาศัยดี ฉันจึงเต็มใจที่จะอนุญาตให้เค้าออกมาจากเฟรนด์โซน แต่ดูเหมือนว่าเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ และพวกเราก็ไม่ใช่น้องใหม่อีกต่อไป รุ่นน้องผู้หญิงที่เข้ามาใหม่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มทั้งนั้นจนทำให้แฟนของฉันเริ่มหวั่นไหวและเปลี่ยนใจในที่สุด
ทันทีที่รู้ว่าตัวเองถูกนอกใจอย่างแรกที่ฉันทำคือระบายความโกรธกับแฟน ต่อมาคือการร้องไห้ฟูมฟายและตามตื้อ จนกระทั่งพบว่าตัวเองเริ่มไม่อยากกินข้าวและน้ำหนักลดลงเรื่อยๆ ฉันอายที่ตัวเองถูกทิ้งและแอบคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าคนอื่นๆ จะนินทาลับหลังว่าอย่างไร พวกเค้าจะหัวเราะเยาะหรือจะสงสารเห็นใจ ความคิดฟุ้งซ่านต่างๆ คอยวนเวียนมาหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา ฉันจมอยู่กับความเศร้าและน้ำตาตลอดระยะเวลาที่เหลือในการเรียนที่วิทยาลัยและเฝ้าหวังว่าขอให้เรียนจบจากที่นี่เร็วๆ จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
มันอาจจะเป็นข้อดีของการอกหักแต่ยังต้องเรียนหนังสืออยู่ด้วยกันกับแฟนเก่าก็เป็นได้ที่ทำให้ฉันคิดได้ว่า “ชั้นจะไม่ยอมทิ้งอนาคตของตัวเองและเศร้าโศกอยู่กับหัวใจที่แตกสลาย ชีวิตของชั้นต้องดีขึ้นกว่าเดิม ชั้นต้องผ่านมันไปได้” ถึงแม้ว่าลึกๆ ในใจของฉันตอนนั้นยังคงเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลาแต่ฉัน “เลือก” ที่จะเอาชนะมันด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น ดูแลตัวเองดีขึ้น รักตัวเองมากขึ้น และพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น ทั้งหมดนี้ฉันไม่ได้ทำเพื่อให้แฟนเก่ากลับมารักแต่ ฉันทำเพื่อตัวเอง
ใช่ว่าฉันไม่โกรธไม่คิดแค้นแฟนเก่ากับรุ่นน้องคนนั้น ไม่ใช่เลยค่ะนี่ก็คนเหมือนกันนะคะ! แต่พอเวลาผ่านไปและฉันจบการศึกษาด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดีทำให้ฉันได้ทำงานที่แรกกับบริษัทชั้นนำของวงการ พอมานึกดูอีกทีฉันยังไม่รู้เลยว่าได้ให้อภัยกับพวกเค้าไปแล้วตั้งแต่ตอนไหน เพราะประมาณ 10 กว่าปีต่อมาฉันเจอแฟนเก่าพร้อมกับภรรยาของเค้าโดยบังเอิญตอนกำลังเลือกซื้อของตกแต่งบ้าน แต่กลับพบว่าภรรยาของเค้าไม่ใช่รุ่นน้องคนนั้น!
หลังจากนั้นฉันกับแฟนเก่าก็ได้นัดเจอกันที่ร้านกาแฟ เค้าขอโทษและมอบของฝากให้กับฉัน พวกเราถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของกันและกัน รวมถึงชีวิตที่ผ่านมาหลังจากจบการศึกษา ท่าทางเค้าดูสำนึกผิดกับสิ่งที่ได้ทำลงไป ฉันเองก็ขอโทษเค้าเช่นกันเราสองคนต่างอโหสิกรรมให้กันและกัน และแยกย้ายจากกันไปด้วยดี
บทเรียนที่ได้ : จงเปลี่ยนจากความผิดหวัง ท้อแท้ เสียใจให้กลายเป็นพลังใจ
06-06-2021